จากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศญี่ปุ่นได้ทวีความรุนแรงขึ้นในวันนี้ หลังจากที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 1,000 รายในหลายพื้นที่ของประเทศ
โดยในบางจังหวัดก็ได้เริ่มประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉิน แล้ววันนี้
กรุงโตเกียวเผยว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากถึง 463 ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีอาชีพทำงานในเวลากลางคืน ล่าสุดได้มีคำสั่งให้ร้านที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ความร่วมมือปิดให้บริการ
ในเวลา 22:00 น. นางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียวกล่าวว่า เป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากนับตั้งแต่พบการระบาดมา ซึ่งหากสถานการณ์เลวร้ายลงทางกรุงโตเกียวก็พร้อมพิจารณาประกาศ
สถานการณ์ฉุกเฉินด้วยตัวเองทันที
ขณะที่ในจังหวัดโอซาก้า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากถึง 190 ราย ขณะที่เมืองฟูกุโอกะ พบผู้ติดเชื้อ 121 ราย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่ทำงานในเวลากลางคืน และจังหวัดไอจิมียอดผู้ติดเชื้อรวมอยู่ที่ 844 ราย
ล่าสุดนายฮาจิเมะ ฟูรูตะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกิฟุ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้วยตัวเองแล้ววันนี้ ให้เหตุผลว่าจังหวัดกำลังเผชิญกับการระบาดในรอบที่ 2 หลังพบผู้ติดเชื้อมากถึง 160 รายในเดือนนี้
แต่อย่างไรก็ตาม นายโยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศอย่างเด็ดขาดเนื่องจากว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุเฉลี่ยต่ำกว่า 40 ปี
และมีอาการไม่รุนแรง ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าแคมเปญการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว “Go To Travel” จะยังคงดำเนินต่อไป โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ…